คุณยุวดี คาดการณ์ไกล ผู้อำนวยการสถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์เภสัชกรสถิตพงษ์ ธนวิริยะกุล ผู้เชี่่ยวชาญของสถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ ให้การต้อนรับ พูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในประเด็น "การพัฒนาผู้สูงอายุของไทยและจีน" กับคุณ Yang Jing, ผู้อำนวยการสถาบัน Institute of Sociology Studies, Yunnan Academy of Social Sciences; และทีมคณะวิจัยในสถาบันอีก 3 ท่านได้แก่ คุณ Yu Haiqiu, คุณ Dai Li และ คุณ Duan Zhusheng ในวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความรู้และสถานการณ์การพัฒนาผู้สูงอายุระหว่างไทยและจีน สำหรับประเทศไทยนั้น สวัสดิการสำหรับการดูแลผู้สูงอายุของรัฐบาลนั้น แบ่งได้ 2 กลุ่ม กลุ่มที่เป็นแรงงานในระบบ กลุ่มคนเหล่านี้จะมีรายได้และสิทธิ์ต่างๆ จากบำนาญของตนเอง ตามสิทธิที่ตนเองมี เช่น จากบำนาญข้าราช หรือประกันสังคม สำหรับกลุ่มแรงงานนอกระบบ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของผู้สูงอายุทั้งหมด มีเพียงเบี้ยยังชีพเดือนละ 600 บาท และกองทุนการออมแห่งชาติ (ตามการสมัครใจออมของแต่ละคน) ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่ยังห่วงสำหรับสังคมไทย ในขณะที่จีนนั้น สวัสดิการการดูแลผู้สูงอายุนั้นมีหลายระดับ ทั้งการดูแลในระดับชาติ การดูแลของท้องถิ่น การดูแลระดับชุมชน แม้กระทั่งในเขตเมือง และชนบทก็มีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากไทย ทั้งสองประเทศสามารถต่อยอดเรียนรู้แลกเปลี่ยนทางวิชาการร่วมกันในอนาคต
หลังจากได้แลกเปลี่ยนประเด็นทางวิชาการแล้ว ทางสถาบันคลังปัญญาฯ ได้ประสานงานนำคณะวิจัยจากจีนทั้ง 4 ท่าน เดินไปทางไปศึกษาดูงาน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและฟื้นฟูผู้ป่วยกนก เฮลท์ แคร์ (Kanok Health Care) สาขาชินเขต ศูนย์แห่งนี้บริหารจัดการโดยภาคเอกชน เน้นดูแลผู้ป่วยพักฟื้นระยะสั้น ระยะยาว ผู้ป่วยฟื้นฟูหลังผ่าตัด ผู้ป่วยพาร์กินสัน ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดและสมอง ผู้ป่วยระหว่างการรักษาโรคมะเร็ง ผู้ป่วยหลังติดเชื้อโควิค 19 ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยให้อาหารทางสายยาง ผู้ป่วยเน้นฟื้นฟูสุขภาพ ผู้สูงอายุต้องการดูแลแบบใกล้ชิด สิ่งท่ี่น่าสนใจของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแห่งนี้ แม้จะเป็นการบริหารด้วยเอกชน แต่ไม่เน้นกำไรเป็นสูงสุด ไม่เน้นหาลูกค้าให้มาพักฟื้นเต็มศูนย์ แต่ผู้ป่วยและญาติ ต้องมีเป้าหมายเดียวกับศูนย์ฯ คือต้องอดทน และปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นฟูได้ดีที่สุด การศึกษางานดูงานครั้งนี้ เพื่อให้นักวิจัยจีนได้มีความเข้าใจการดูแลผู้สูงอายุของไทยที่มาจากหลายภาคส่วน และสามารถเปรียบเทียบและแลกเปลี่ยนประเด็นทางวิชาการซึ่งกันและกันในอนาคตได้
Commentaires